ไม่หยุดแค่นี้ เลสเตอร์ ซิตี้ จ่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่บอลอังกฤษ หลังซิวแชมป์เดอะ แชมเปียนชิพ เลื่อนชั้นคืนสู่พรีเมียร์ลีก
วันที่ 30 เมษายน 2567 ควันหลงหลังเกมเดอะ แชมเปียนชิพ อังกฤษ นัดมันเดย์ไนต์ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่ง เลสเตอร์ ออกไปชนะ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ทีมอันดับ 10 แบบขาดลอย 3-0 โดย เจมี วาร์ดี เหมาคนเดียว 2 ประตู อีกลูกได้จาก เคซี แม็คเคเทียร์
ทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 97 คะแนน จาก 45 นัด คว้าแชมป์เดอะ แชมเปียนชิพ แน่นอนแล้ว โดย “จิ้งจอกสยาม” ทิ้งห่าง อิปสวิช ทาวน์ อันดับ 3 เพิ่มเป็น 7 แต้ม ในขณะที่ “ม้าขาว” เหลืออีกแค่ 2 นัด ขณะที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด อันดับ 2 มี 90 คะแนน และเหลือแค่ 1 เกม
ทั้งนี้ “จิ้งจอกสยาม” คว้าแชมป์ลีกรองของอังกฤษได้เป็นสมัยที่ 8 ทำสถิติสูงสุดในประเทศอังกฤษ หลังจากเคยคว้าแชมป์มาแล้วในปี 1925, 1937, 1954, 1957, 1971, 1980 และ 2014
สำหรับเดอะ แชมเปียนชิพ อังกฤษ จะมีพิธีมอบถ้วยแชมป์ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ อย่างเป็นทางการในนัดปิดฤดูกาล 2023-24 ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม เปิดบ้านต้อนรับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคมนี้ แข่งขัน 18.30 น. ตามเวลาไทย
เลสเตอร์ ซิตี้ ยังมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีก 2 เรื่อง โดยลุ้นเป็นทีมแรกของอังกฤษที่เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด ด้วยการเก็บ 100 คะแนนหรือมากกว่า ได้ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรก “จิ้งจอกสยาม” เคยคว้าแชมป์เดอะ แชมเปียนชิพ ฤดูกาล 2013-14 ด้วยผลงาน 102 คะแนน
นอกจากนี้ “จิ้งจอกสยาม” ยังมีลุ้นเป็นทีมแรกในรอบ 104 ปี ที่เก็บชัยชนะในลีกรองอังกฤษได้ถึง 32 นัด ต่อจาก สเปอร์ส เมื่อฤดูกาล 1919-20 ซึ่งฤดูกาลนี้ เลสเตอร์ คว้าชัยในเดอะ แชมเปียนชิพ 2023-24 ไปแล้ว 31 เกม
ที่มา : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premierleague/2781976
